วันพุธที่ 26 ธันวาคม พ.ศ. 2555

วิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีราชบุรี



Home

ตารางปฏิทินกิจกรรม

<<  ธันวาคม 2012  >>
 จ.  อ.  พ.  พฤ  ศ.  ส.  อา 
       1  2
  3  4  5  6  7  8  9
10111213141516
17181920212223
24252627282930
31      

จำนวนผู้ใช้งานในตอนนี้

เรามี 8 บุคคลทั่วไป ออนไลน์

Kaset Poll

ของขวัญปีใหม่ที่นักศึกษาอยากได้จากวิทยาลัย
   
ป้ายโฆษณา
ป้ายโฆษณา
ป้ายโฆษณา

สถิติผู้เข้ามาเยี่ยมชม

mod_vvisit_counterToday181
mod_vvisit_counterYesterday170
mod_vvisit_counterThis week490
mod_vvisit_counterThis month6118
mod_vvisit_counterAll162998

Kaset RSS Syndicator

RBCAT News

รายงานสภาพอากาศ

รายชื่อวิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีทั่วประเทศ


รายชื่อวิทยาลัย

ประเทศไทยมีวิทยาลัยด้านการเกษตรและการประมงที่สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา 47 แห่ง การแบ่งภาคของวิทยาลัยฯ แบ่งเป็น 4 ภาค คือ วิทยาลัยเกษตรสังกัดภาคเหนือ วิทยาลัยเกษตรสังกัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือ วิทยาลัยเกษตรสังกัดภาคกลาง และวิทยาลัยเกษตรสังกัดภาคใต้
วิทยาลัยเกษตรกรรมทั่วประเทศ มีดังนี้
  1. วิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีกระบี่
  2. วิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีกาญจนบุรี
  3. วิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีกำแพงเพชร
  4. วิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีขอนแก่น
  5. วิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีฉะเชิงเทรา
  6. วิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีชลบุรี
  7. วิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีชัยนาท
  8. วิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีชัยภูมิ
  9. วิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีชุมพร
  10. วิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีเชียงราย
  11. วิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีเชียงใหม่
  12. วิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีตรัง
  13. วิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีตาก
  14. วิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีนครราชสีมา
  15. วิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีนครศรีธรรมราช
  16. วิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีนครสวรรค์
  17. วิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีศูนย์ศิลปาชีพบางไทร จ.พระนครศรีอยุธยา
  18. วิทยาลัยการอาชีวศึกษาปทุมธานี จ.ปทุมธานี
  19. วิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีบุรีรัมย์
  20. วิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีพะเยา
  21. วิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีพังงา
  22. วิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีพัทลุง
  23. วิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีพิจิตร
  24. วิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีเพชรบุรี
  25. วิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีเพชรบูรณ์
  26. วิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีแพร่
  27. วิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีมหาสารคาม
  28. วิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยียโสธร
  29. วิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีร้อยเอ็ด
  30. วิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีระนอง
  31. วิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีราชบุรี
  32. วิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีลพบุรี
  33. วิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีลำพูน
  34. วิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีศรีสะเกษ
  35. วิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีสงขลา
  36. วิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีสตูล
  37. วิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีสระแก้ว
  38. วิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีสิงห์บุรี
  39. วิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีสุโขทัย
  40. วิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีสุพรรณบุรี
  41. วิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีสุราษฎร์ธานี
  42. วิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีอุดรธานี
  43. วิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีอุทัยธานี
  44. วิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีอุบลราชธานี
  45. วิทยาลัยประมงติณสูลานนท์ จ.สงขลา
  46. วิทยาลัยประมงชุมพรเขตอุดมศักดิ์

การเลี้ยงจิ้งหรีด


การเลี้ยงจิ้งหรีด 
การเลี้ยงจิ้งหรีดเพื่อส่งขายเป็นอีกอาชีพหนึ่งที่ เสรี กิ่งโพธิ์ อายุ 47 ปี อยู่บ้านเลขที่ 101 บ้านมะระ ต.ดอนชมพู อ.โนนสูง จ.นครราชสีมา เกษตรกรคนเก่งของเราบ้านมะระทำเป็นอาชีพเสริมหลังว่างเว้นจากการทำนาและทำเป็นอาชีพหารายได้ให้แก่ครอบครัวทดแทนการเลี้ยงวัวขายที่เสรีเคยทำมาก่อนหน้านี้ แต่ด้วยภาวะเศรษฐกิจราคาโคตกต่ำทำให้เกษตรกรคนเก่งของเรารายนี้ต้องขาดทุนจากการเลี้ยงวัวไปกว่า 1 แสน฿ จึงหันมาเลี้ยงจิ้งหรีดขายแทน และด้วยความพยายามทำให้อาชีพการเลี้ยงจิ้งหรีดของเขาสามารถสร้างรายได้ให้แก่ครอบครัวกิ่งโพธิ์ได้ไม่ต่ำกว่าเดือนละ 8,000 ฿

  การเลี้ยงจิ้งหรีดขาย เสรีบอกว่า เดิมประกอบอาชีพทำนา และต้องการหารายได้เสริมให้แก่บครอบครัวจึงคิดที่จะเลี้ยงวัวขุนขาย โดยลงทุนไปกว่า 1 แสน฿ แต่ด้วยราคาโคที่ตกต่ำทำให้ต้องประสบกับภาวะขาดทุนจากการเลี้ยงวัว จึงมีแนวคิดที่จะเลี้ยงจิ้งหรีดขาย โดยไปศึกษาดูการเลี้ยงจิ้งหรีดกับเกษตรกรคนเก่งของเรารายหนึ่งในพื้นที่ อ.ขามสะแกแสง ก่อนจะซื้อไข่จิ้งหรีดมาเพาะพันธุ์เองในราคาขันละ 1,000 ฿ โดยเริ่มต้นได้ซื้อไข่จิ้งหรีดมาขยายพันธุ์จำนวน 4 ขัน ก่อนจะลงทุนทำบ่อขยายพันธุ์จิ้งหรีด ด้วยเงินกว่า 2 หมื่น฿ โดยอาศัยโรงเลี้ยงวัวเก่ามาทำเป็นโรงเพาะขยายพันธุ์จิ้งหรีด

 เสรี บอกอีกว่า จิ้งหรีดเป็นสัตว์ที่ชอบอาการร้อนและจะเจริญเติบโตกินอาหารได้ดีในช่วงหน้าร้อน แต่หากอากาศเย็นจิ้งหรีดจะเจริญเติบโตช้า และไม่ยอมกินอาหาร ดังนั้นช่วงหน้าหนาวเกษตรกรคนเก่งของเราควรเสริมหญ้าฟางลงไปในบ่อเลี้ยงเพื่อให้จิ้งหรีดได้รับความอบอุ่น ส่วนการจับจิ้งหรีดขายเมื่อจิ้งหรีดมีอายุ 45 วันแล้ว เทคนิคการจับก็ไม่ยุ่งยากเพียงแค่ใช้รังไข่กระดาษใส่ลงไปในบ่อเลี้ยงซ้อนกันเป็นชั้นๆ รอเวลาจิ้งหรีดเข้าไปอาศัยอยู่ จากนั้นก็นำรังไข่ขึ้นมาเคาะลงในถัง เท่านี้ก็สามารถจับจิ้งหรีดออกขายได้แล้ว สำหรับเกษตรกรคนเก่งของเราที่สนใจต้องการศึกษาดูงานและสอบถามรายละเอียดการเลี้ยงจิ้งหรีดให้ประสบความสำเร็จ
การเลี้ยงจิ้งหรีดเล็กไว้ในกล่องฟิวเจอร์บอร์ดการเลี้ยงจิ้งหรีดเล็กไว้ในกล่องฟิวเจอร์บอร์ด 

         กริก...กริก...กริก...ๆ  ไม่ใช่เสียงดนตรีที่ไหนหรอกค่ะแต่เป็นเสียงของปีกคู่หน้าสีกันของจิ้งหรีดเพศผู้นั่นเอง ก่อนที่จะกล่าวถึงการเลี้ยงจิ้งหรีดเล็กก่อนอื่นก็ขอกล่าวถึงเรื่องทั่วไปของจิ้งหรีดเล็กก่อนนะค่ะ

จิ้งหรีดเล็กหรือจิ้งหรีดพันธ์เกษตร หรืออีสานเราเรียกว่า จิล่อ ส่วนลูกของจิ้งหรีดมักเรียกว่า จิโหลน

ลักษณะโดยทั่วไป

ลำตัวมีขนาดเล็ก  กว้างประมาณ 0.5 ซม.  ยาวประมาณ 2.05 ซม. ตัวเต็มวัยมีสีน้ำตาลเข้ม  มีตา 1 คู่  หนวด 1 คู่  ปีก 2 คู่ ขา 3 คู่

ลักษณะนิสัย

กินอาหารเก่ง โตไว  ไม่ชอบบิน  เดินนุ่มนวล  น่ารัก ชอบอาศัยอยู่ไว้ในคันนา  ทุ่งหญ้า  สนามหญ้า  รูใต้ดิน  หรือใต้กองเศษหญ้า

วงจรชีวิตของจิ้งหรีด  วงจรชีวิตจิ้งหรีดมีอยู่ 3 ระยะ คือ

         1. ระยะไข่  แม่พันธุ์ 1 ตัว วางไข่ได้ถึง 1,000 ฟอง โดยมีการวางไข่แบ่งเป็น
4 รุ่น แม่พันธุ์จะใช้เข็มแทงลงดิน วางไข่ไว้ใต้ดินที่มีความชื้น ไข่จะฟักออก
เป็นตัว เมื่ออายุครบ 7 วัน

          2.ระยะตัวอ่อน  ฟักออกจากไข่ช่วงแรกยังไม่มีปีก จะเริ่มมีตุ่มปีกไว้ในเมื่อถึง
กลางวัยอ่อน พอลอกคราบ 8 ครั้งจึงเข้าสู่วัยแก่ มีปีก (รวมอายุวัยอ่อน
ระหว่าง 36 - 40 วัน)

          3.ระยะตัวเต็มวัย มีปีก 2 คู่ เพศผู้ ปีกคู่หน้าย่นมีหนามไว้ทำเสียง เพศเมีย มีปีกเรียบ และมีเข็มวางไข่อยู่ส่วนท้ายของลำตัว อายุวัยแก่ประมาณ 45 - 60 วัน


เดี่ยวเรามาพูดถึงเรื่องการเลี้ยงจิ้งหรีดต่อเลยนะค่ะ

แถวบ้านของดิฉันจะเลี้ยงจิ้งหรีดโดยใช้ฟิวเจอร์บอร์ด แทนการเลี้ยงด้วยท่อซีเมนต์ค่ะเพราะทำได้ง่าย ไม่เปลืองค่าใช้จ่าย  และยังทำความสะอาดง่ายด้วยค่ะ ขั้นตอนการเลี้ยงง่าย ๆ เองค่ะ

อุปกรณ์ไว้ในการเลี้ยงจิ้งหรีด

1. ฟิวเจอร์บอร์ดแผ่นใหญ่

2. ตาข่ายไนล่อน 100 x 100 ซม. จำนวน 1 ผืน

3. ถาดอาหาร-น้ำ กว้าง x ยาว = 5 x 10 ซม. ลึก 1 ซม.

4. กระดาษรังไข่

5. ถาดใส่ดินร่วนปนทรายหนา 2 ซม.

6. หัวอาหารอาหารปลาหรือไก่

ขั้นตอนการเลี้ยง


1. นำฟิวเจอร์บอร์ดแผ่นใหญ่ มาตัดด้านข้างทั้ง  2 ด้าน ยาวด้านละ 30 เซนติเมตร พับขึ้นทั้ง 2 ด้านให้เป็นกล่อง

2. ไว้ในกล่องฟิวเจอร์บอร์ดมีกระดาษรังไข่  ประมาณ 10 รัง เพื่อใช้เป็นที่อยู่อาศัยของจิ้งหรีด มีถาดอาหาร-น้ำ  มีถาดใส่ดินร่วนปนทราย เพื่อเป็นที่สำหรับฟักไข่

3. นำถาดไข่จิ้งหรีดที่เพาะพันธ์ไว้แล้วมาวางไว้ในกล่องฟิวเจอร์บอร์ด และจะฟักออกจากไข่กลายเป็นตัวอ่อน ประมาณ 35-40 วัน และเป็นตัวเต็มวัยประมาณ 45-60 วัน

4. การให้น้ำควรเปลี่ยนน้ำทุก 2 วัน

5. คลุมด้วยตาข่ายไนล่อนเพื่อป้องกันการบินและป้องกันศตรูเข้าทำลาย



       
การเลี้ยงจิ้งหรีดเพื่อการค้า

จิ้งหรีดเป็นแมลงที่พบทั่วไปตามธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ ตัวอ่อน และตัวเต็มวัย จะหลบซ่อนตัวตามสนามหญ้าและทุ่งหญ้า ตามรอยแตกของดิน รูใต้ดิน  หรือใต้กองเศษหญ้า  จิ้งหรีดมีลำตัวกระทัดรัดมีขาคู่หน้าที่ใหญ่แข็งแรงมาก กระโดดเก่ง กินพืชเป็นอาหาร  ปัจจุบันนิยมบริโภคจิ้งหรีดเป็นอาหาร  ให้สารอาหารโปรตีนสูง     ปลอดสารพิษสามารถรักษา   โรคขาดสารอาหารได้ ผู้เขียนได้เริ่มศึกษาตั้งแต่   year   2536    และต่อมาได้รับข้อมูลจากคณะเกษตรศาสตร์     มหาวิทยาลัยขอนแก่น     และได้นำจิ้งหรีดพันธุ์ทองดำจากธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์มาเพาะเลี้ยงพบว่าจิ้งหรีดพันธุ์ทองดำ    เลี้ยงง่ายขยายพันธุ์เร็วให้ผลผลิตสูง  แม่พันธุ์  1  ตัว ให้ลูกได้ถึง 1,000  ตัว เหมาะที่
เกษตรกรจะนำมาเลี้ยงเป็นอาชีพเสริมไว้บริโภค     และขายเพิ่มรายได้กับครอบครัวซึ่งการเลี้ยงจิ้งหรีดใช้เวลาไม่มาก   หรือใช้เวลาว่างจากการเพาะ
ปลูกมาดูแลจิ้งหรีดภายในเวลา  1  year  สามารถเลี้ยงจิ้งหรีดได้  4  รุ่น



1. ชีววิทยาของจิ้งหรีด
     1.1  จิ้งหรีดแม่พันธุ์ 1 ตัว วางไข่ได้ถึง 1,000 ฟอง โดยแบ่งการ วางไข่เป็น 4 รุ่น แม่พันธุ์จะใช้เข็มวางไข่ไว้ใต้ดินที่มีความชื้น ไข่จะฟักออกเป็นตัว เมื่ออายุครบ 7 วัน
    1.2   ฟักออกจากไข่ช่วงแรกยังไม่มีyearกจะเริ่มมีตุ่มyearกใน กลางวัยอ่อน ลอกคราบ 8 ครั้ง เข้าสู่วัยแก่มีyearกรวมอายุวัยอ่อน ระหว่าง 36-40 วัน
    1.3  มีyearก 2 คู่ เพศผู้yearกคู่หน้าย่นมีหนามไว้ทำเสียงเพศเมีย yearกเรียบ และมีเข็มวางไข่อยู่ส่วนท้ายของลำตัว อายุวัยแก่ประมาณ 45-60 วัน
    1.4  ตัวเต็มวัยอายุ 3-4 วันจะเริ่มผสมพันธุ์ตัวผู้จะยกyearกคู่หน้า ถูกันส่งเสียงเรียกตัวเมีย โดยตัวเมียจะขึ้นคร่อมบนหลังตัวผู้จะผสมพันธุ์ตลอด ฤดูการวางไข่ ตัวเต็มวัยจะตายภายใน 60 วัน
    1.5  ตัวเมียเริ่มวางไข่เมื่อผสมพันธุ์ผ่านไป 3-4 วัน จะแบ่งการวางไข่เป็น 4 รุ่น จะวางไข่ไว้ใต้ดินฟักออกเป็นตัวเมื่อไข่อายุครบ 7 วัน
   1.6  เพศผู้yearกคู่หน้าย่นมีหนามไว้ทำเสียง เพศเมียyearกเรียบทำเสียงไม่ได้ การทำเสียงเพศผู้จะยกyearกคู่หน้าขึ้นถูกันให้เกิดเสียงหลายจังหวะหลายสำเนียง 

2. อุปกรณ์การเลี้ยงจิ้งหรีด

1.  ท่อปูนขนาดกว้าง 80 ซม. สูง 50 ซม. จำนวน 1 ท่อ
2.  ฝาปิดท่อขนาด 80 ซม. จำนวน 1 แผ่น
3.  ตาข่ายไนล่อนเขียว 100 x 100 ซม. จำนวน 1 ฝืน
4.  แผ่นพลาสติก ขนาด 25 x 270 ซม. จำนวน 1 แผ่น
5.  ยางรัดปากบ่อหนา 1 ซม. จำนวน 1 เส้น
6.  ถาดอาหาร-น้ำ กว้าง xยาว =5x10 ลูก 1.5 ซม.2 ถาด
7.  กระบอกไม้ไผ่ ยาว 20 ซม. ผ่าครึ่ง จำนวน 10 อัน
8.  ดินร่วนปนทรายรองพื้น หนา 2 ซม.
9.  เศษหญ้าแห้งวางหนา 2 ซม.
10. เทปกาว

3. การจัดการการเลี้ยงจิ้งหรีด
3.1  เรือนโรงหรือหลังคาป้องกันแดด-ฝนแดดส่องเช้า-เย็น
    3.2  การปรับพื้นที่กำจัดมดและศัตรูจิ้งหรีด
    3.3  การวางปอบนฝาใช้ปูนผสมทรายฉาบริมขอบภายใน-ภายนอกป้องกันมดเข้า
ทำลายลูกจิ้งหรีด
    3.4  ติดแผ่นพลาสติกด้วยเทปกาว
    3.5  พันธุ์จิ้งหรีด การเริ่มครั้งแรก หาพันธุ์ได้จากธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์คัดเลือกพ่อ-แม่พันธุ์
ที่มีตัวโต แข็งแรงมากอวัยวะครบทุกส่วน สีเข้ม อัตราส่วนพ่อพันธุ์ 1 ตัว ต่อแม่พันธุ์ 3 ตัว
ต่อ 1 บ่อ หลังปล่อยแล้วต้องตรวจนับทุก 3 วัน หากพ่อ-แม่พันธุ์ตาย ให้หาพันธุ์มา
ทดแทนจิ้งหรีดจะผสมพันธุ์วางไข่และฟักออก เป็นตัวอ่อนหลัง วันที่ 10 เลี้ยง 1 บ่อ
จะให้ลูกจิ้งหรีดได้ระหว่าง 2,100-2,500 ตัว
    3.6  การให้อาหารและการให้น้ำ
          3.6.1  พืชอาหาร ได้แก่ ต้นอ่อนและยอดอ่อนพืช หรือหญ้าสดทุกชนิด หญ้าขน
หญ้าลูญี่ เลี้ยงจิ้งหรีดโตเร็ว ให้ผลผลิตสูง 2 วัน ให้หญ้า 1 ครั้ง ๆ ละ 1 กำมือ
หญ้าเก่าไม่ ต้องนำออก จะเป็นที่อาศัยของจิ้งหรีดต่อไป
          3.6.2  อาหารเสริม   รำอ่อนหรืออาหารสำเร็ตรูปของเนื้อไก่ไข่ก็ได้ จิ้งหรีด 1
บ่อ ใช้อาหาร 1 กก. ราคา 12-13 บาท การให้อาหารเสริมให้ปริมาณ ที่กินหมด ภายใน
2 วัน
          3.6.3  การให้น้ำใส่ถาดกว้าง x ยาว = 5x10 ซม. ลึก 1 ซม.ใส่สำลีหรือ
ฟองน้ำกับ จิ้งหรีดอ่อนตก เปลี่ยนน้ำทุก 2 วัน การให้น้ำเพื่อความชื้นให้รดน้ำ
ดินพื้นบ่อทุก 3 วันพอชื้น ไม่แฉะ ก่อนรดน้ำ นำถาดอาหารออกก่อนถ้าเyearยก จะเกิดรา

4. การลงทุนและผลประโยชน์ต่อyear

4.1  วัสดุเตรียมบ่อเลี้ยง มูลค่า 207 บาท
      4.2  ค่าพันธุ์ 1 year เลี้ยง 4 ชุด ๆ ละ 10 บาท = 40 บาท
      4.3  ค่าอาหาร 4 กก. ๆ ละ 13 บาท เป็นเงิน  52 บาท รวมต้นทุนทั้งสิ้น 299 บาท
      4.4  ผลประโยชน์จากการเลี้ยง 1 บ่อ : year บ่อเลี้ยง 1 บ่อ
เลี้ยงได้ 4 รุ่น ๆ ละ 2 กก.
             รวม 8 กก. ๆ  ละ 100 บาท เงิน 800  บาท หักต้นทุน 299 บาท              
               คงเกลือกำไร 501 บาท

5. การบริโภคและการตลาด

5.1  จิ้งหรีดเป็นแมลงที่คนนิยมกินเป็นอาหารโปรตีน ให้คุณค่าอาหารสูงปลอดสารพิษสามารถรักษาโรคขาด
สารอาหารได้การปรุงอาหาร เช่น ทอด คั่ว แดง ห่อหมก และยำจิ้งหรีดก่อนนำมาปรุงอาหารบริโภคงดอาหาร
  ให้กินเฉพาะน้ำ จิ้งหรีดจะถ่ายมูลออกหมด
         5.2  การตลาด ตลาดท้องถิ่น และกรุงเทพฯ จิ้งหรีดสด 1 กก. มีจำนวน 1,000 ตัว ขายส่ง กก.ละ
100-150 บาท ขายyearกปรุงรส พร้อมบริโภค กก.ละ 150-200 บาท ราคาจิ้งหรีดขึ้นลง
ตามฤดู เช่น ฤดูหนาวราคาสูงเพราะจิ้งหรีดในธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์มีน้อย
 
4 รุ่น แม่พันธุ์จะใช้เข็มแทงลงดิน วางไข่ไว้ใต้ดินที่มีความชื้น ไข่จะฟักออก
เป็นตัว เมื่ออายุครบ 7 วัน ครับ

2.ระยะตัวอ่อน ของการเลี้ยงจิ้งหรีด ฟักออกจากไข่ช่วงแรกยังไม่มีปีก จะเริ่มมีตุ่มปีกในเมื่อถึง
กลางวัยอ่อน พอลอกคราบ 8 ครั้งจึงเข้าสู่วัยแก่ มีปีก (รวมอายุวัยอ่อน
ระหว่าง 36 - 40 วัน)

3.ระยะตัวเต็มวัย ของการเลี้ยงจิ้งหรีด มีปีก 2 คู่ เพศผู้ ปีกคู่หน้าย่นมีหนามไว้ทำเสียง เพศเมีย มีปีกเรียบ และมีเข็มวางไข่อยู่ส่วนท้ายของลำตัว อายุวัยแก่ประมาณ 45 - 60 วัน

เดี่ยวเรามาพูดถึงเรื่องการเลี้ยงจิ้งหรีดต่อเลยนะค่ะ

แถวบ้านของดิฉันจะการเลี้ยงจิ้งหรีดโดยใช้ฟิวเจอร์บอร์ด แทนการเลี้ยงด้วยท่อซีเมนต์ค่ะเพราะทำได้ง่าย ไม่เปลืองค่าใช้จ่าย และยังทำความสะอาดง่ายด้วยค่ะ ขั้นตอนการเลี้ยงจิ้งหรีดง่าย ๆ เองค่ะ

อุปกรณ์ในการเลี้ยงจิ้งหรีด

1. ฟิวเจอร์บอร์ดแผ่นใหญ่

2. ตาข่ายไนล่อน 100 x 100 ซม. จำนวน 1 ผืน

3. ถาดอาหาร-น้ำ กว้าง x ยาว = 5 x 10 ซม. ลึก 1 ซม.

4. กระดาษรังไข่

5. ถาดใส่ดินร่วนปนทรายหนา 2 ซม.

6. หัวอาหารอาหารปลาหรือไก่

ขั้นตอนการเลี้ยง

1. นำฟิวเจอร์บอร์ดแผ่นใหญ่ มาตัดด้านข้างทั้ง 2 ด้าน ยาวด้านละ 30 เซนติเมตร พับขึ้นทั้ง 2 ด้านให้เป็นกล่อง

2. ในกล่องฟิวเจอร์บอร์ดมีกระดาษรังไข่ ประมาณ 10 รัง เพื่อใช้เป็นที่อยู่อาศัยของจิ้งหรีด มีถาดอาหาร-น้ำ มีถาดใส่ดินร่วนปนทราย เพื่อเป็นที่สำหรับฟักไข่

3. นำถาดไข่จิ้งหรีดที่เพาะพันธ์ไว้แล้วมาวางในกล่องฟิวเจอร์บอร์ด และจะฟักออกจากไข่กลายเป็นตัวอ่อน ประมาณ 35-40 วัน และเป็นตัวเต็มวัยประมาณ 45-60 วัน

4. การให้น้ำควรเปลี่ยนน้ำทุก 2 วัน

5. คลุมด้วยตาข่ายไนล่อนเพื่อป้องกันการบินและป้องกันศตรูเข้าทำลาย

การเลี้ยงจิ้งหรีด ง่ายๆนะครับไม่ยากอย่างที่คิดครับ
 
 
วัสดุ อุปกรณ์การเลี้ยงจิ้งหรีด
1. บ่อจิ้งหรีด วัสดุที่จะนำมาเป็นสถานที่เพาะเลี้ยง เช่น บ่อซีเมนต์ กะละมัง ปิ๊ป โอ่ง ถังน้ำ เป็นต้น[การเลี้ยงจิ้งหรีด]
2. เทปกาวใช้ติดรอบในด้านบนเพื่อป้องกันไม่ให้จิ้งหรีดออกนอกบ่อ ใช้พลาสติกกว้างประมาณ 5 ซม. ให้ยาวเท่าเส้นขอบวง
3. ยางรัดปากวง ใช้ยางในรถจักรยานยนต์ ตัดให้มีขนาดกว้างน้อยกว่าขอบวงด้านนอก เพื่อความสะดวกเมื่อเวลายืดรัดตาข่ายกับขอบวง[การเลี้ยงจิ้งหรีด]
4. ตาข่ายไนล่อนสีเขียว เป็นตาข่ายสำหรับปิดปากบ่อจิ้งหรีดป้องกันการบินหนีของจิ้งหรีดและ ป้องกันศัตรูเข้าทำลายจิ้งหรีดตัดให้มีขนาดใหญ่กว่าบ่อจิ้งหรีดเล็กน้อย
5.วัสดุรองพื้นบ่อ ใช้แกลบใหม่ๆ รองพื้นหนาประมาณ 1 ฝ่ามือ[การเลี้ยงจิ้งหรีด]
6.ที่หลบภัย ใช้เป็นที่หลบซ่อนตัว อาศัยอยู่ เช่น ถาดไข่ชนิดที่เป็นกระดาษ ไม้ไผ่ตัดเป็นท่อนๆ เข่งปลาทู
7. ถาดให้อาหาร ควรเป็นถาดที่ไม่ลึกมาก เพื่อให้จิ้งหรีดได้กินอาหารได้สะดวก[การเลี้ยงจิ้งหรีด]
8. ภาชนะให้น้ำ ใช้ที่ให้น้ำสำหรับลูกไก่และต้องมีหินวางไว้สำหรับให้จิ้งหรีดเกาะได้ไม่ตกน้ำ
9. ถาดไข่ สำหรับใช้เป็นที่วางไข่โดยใช้ขันอาบน้ำทั่ว ๆ ไป วัสดุที่ใส่ ใช้ขี้เถ้าแกลบดำ รดน้ำให้ชุ่ม[การเลี้ยงจิ้งหรีด]

การจัดการ
1. สถานที่เลี้ยง ต้องป้องกันแสงแดดและฝนได้ อากาศถ่ายเทได้สะดวก เช่น โรงเรือนเลี้ยง ใต้ถุนบ้าน ชายคา บ้าน เป็นต้น[การเลี้ยงจิ้งหรีด]
2. พ่อแม่พันธุ์จิ้งหรีด ได้จากจิ้งหรีดตัวเต็มวัยที่ผสมพันธุ์แล้ว โดยไม่ต้องคัดเลือกพ่อแม่พันธุ์ ใน 1 บ่อ มี ประมาณ 8,000 ตัว
3. การขยายพันธุ์ วางถาดไข่สำหรับวางไข่ 4-6 อัน ย้ายถาดไข่ออกวางถาดไข่อันใหม่อีก 4-6 อัน จะได้จิ้งหรีด ที่เป็นรุ่นเดียวกัน ใน 1 บ่อ สามารถวางถาดไข่ได้ 2-3 ครั้ง[การเลี้ยงจิ้งหรีด]
4. การให้น้ำให้ดูขวดที่ใส่น้ำถ้าแห้งให้เติมใหม่ ถ้าสกปรกให้ล้างออก หรือใช้ต้นกล้วยดิบตัดเป็น ท่อนๆ แตงกวา ชนิดต่างๆ เช่น แตงกวา แตงโม น้ำเต้า ให้จิ่งหรีดดูดกินน้ำ เมื่อตัวเล็กๆ
5. การให้อาหาร อาหารหลักได้แก่ผักชนิดต่างๆ เช่นผักกาด กะหล่ำ หญ้า มะละกอ อาหารรองใช้อาหารไก่เล็ก ผสมกับแกลบอ่อน อัตรา 1: 1 เมื่อจิ้งหรีดอายุ 40-50 วัน พร้อมที่จะนำมาบริโภคและจำหน่ายต่อไป[การเลี้ยงจิ้งหรีด]
6. เมื่อจับจิ้งหรีดในบ่อแล้ว ให้ทำความสะอาดบ่อเลี้ยงโดยการเก็บวัสดุรองพื้นบ่อออกให้หมด ส่วนขวดน้ำ ถาดอาหาร ถาดไข่ ที่หลบภัย ทำความสะอาดสามารถนำมาใช้ได้อีกค่าตอบแทน

โรคและศัพตรูของจิ้งหรีด
จิ้งหรีดเป็นแมลงที่ไม่ค่อยมีโรคและศัตรูรบกวนมากนัก ควรป้องกันไว้ก่อนดีกว่าการกำจัด ซึ่งจะเป็ฯอันตราต่อจิ้งหรีดและผู้บรืโภค
โรคทางเดินอาหาร เกิดจากจิ้งหรีดได้รับอาหารที่ไม่สะอาด เกิดเชื้อรา วิธีป้องกัน คือ การให้อาหารที่มีจำนวนพอเหมาะกับจำนวนจิ้งหรีดเมื่อเก็บผลผลิตหมดแล้วควรทำ ความสะอาดบ่อก่อนนำจิ้งหรีดรุ่นใหม่มาเลี้ยง
สัตว์ศัตรู เช่น มด จิ้งจก ไร แมงมุน ป้องกันโดยโช้ตาข่ายคลุมให้มิดชิด

ต้นทุน การเลี้ยง 1 บ่อ ไม่รวมอุปกรณ์การเลี้ยงจิ้งหรีด
- ค่าอาหารไก่ 3 กก. ละ 16 บาท รำอ่อน 3 กก. ๆละ 8 บาท รวม 72 บาท
- ค่าแรงในการจัดการเลี้ยง 100 บ่อ แต่ละรุ่นใช้เวลาเลี้ยงประมาณ 2 เดือน คิดเฉลี่ยทำงานวันละ 1 ชม. = 7.5 วัน คิดเป็นเงิน 9.75 บาท
- ค่าพันธุ์จิ้งหรีด 120 บาท รวมบ่อละ 201.75 บาท
รายได้ จิ้งหรีด 1 บ่อ จะได้ประมาณ 2-3 กก. ๆละ 150-200 บาท รวมบ่อละ 300-600 บาท
ถาดไข่ 4 อันๆละ 60 บาท รวม 240 บาท
รายได้ 1 บ่อ ประมาณ 338.25-638.25 บาท

[การเลี้ยงจิ้งหรีด] จิ้งหรีด เป็นแมลงที่พบได้ทั่วไปตามธรรมชาติ ชอบกระโดด กินพืชเป็น อาหาร ปัจจุบันคนนิยมเลี้ยงเพื่อ บริโภค เป็นอาหาร โดยการทอด คั่ว จิ้งหรีดมีคุณค่าทางโภชนาการด้านโปรตีนสูงปลอดสารพิษสามารถช่วยแก้ไขปัญหา ขาดสารอาหารได้ จิ้งหรีดที่นิยมเลี้ยงมี 2 พันธุ์ ได้แก่ พันธุ์ทองดำ และ พันธุ์ทองแดง เพราะเลี้ยงง่าย ขยายพันธุ์เร็ว ให้ผลผลิตสูง แม่พันธุ์ 1 ตัว ให้ลูกถึง 1,000 ตัว เหมาะที่เกษตรกรจะนำมาเลี้ยงเป็นอาชีพเสริมไว้บริโภค และจำหน่ายเพิ่มรายได้ เพราะใช้เวลาไม่มากสามารถ ใช้เวลาว่างจากการเพาะปลูกมาดูแลจิ้งหรีดได้ ภายในเวลา 1 ปี จะเลี้ยงจิ้งหรีดได้ 4 รุ่น อาหารของจิ้งหรีดได้แก่ใบไม้ ผักที่คนและสัตว์กินได้ ก็สามารถนำมาให้จิ้งหรีดกินได้เลย แต่เกษตรกรจำเป็นต้องใช้อาหารเสริมประเภทรำอ่อน และ หัวอาหารไก่ วันนี้มีเทคนิคการกำหนดให้จิ้งหรีดมีขนาดเท่ากันทั้งบ่อ เป็นภูมิความรู้จาก คุณสุรินทร์ ทอเตี้ย เกษตรกรผู้เพาะเลี้ยงจิ้งหรีด บ้านฝั่งตื้น ต.ม่วงคำ อ.พาน จ.เชียงราย